รากฟันเทียม
รากฟันเทียมเป็นฟันปลอมติดแน่นชนิดหนึ่ง ที่เลียนแบบฟันธรรมชาติได้ใกล้เคียงที่สุด มีความแข็งแรงทนทาน ผลิตจากวัสดุไททาเนียม ตัวรากเทียมจะถูกฝังลงไปใต้เหงือก ลงไปในส่วนที่เป็นกระดูกเสมือนเป็นรากฟันธรรมชาติ ตัวรากเทียมจะยึดติดกับกระดูกและให้การรองรับการใส่ฟันแบบติดแน่น หรือ แบบถอดได้ ซึ่งการทำรากฟันเทียมได้เป็นที่นิยมและแพร่หลายมานานหลายปีแล้ว
การปลูกรากฟันเทียม โดยทั่วไปจะแบ่งการรักษาเป็น 2 ระยะ
- ระยะแรก (stage1) จะเป็นการฝังรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกรแล้วพักประมาณ 2 - 3 เดือนเพื่อให้กระดูกขากรรไกรทำการยึดรากฟันเทียมให้มั่นคงก่อน
- ระยะที่สอง (stage2) จะทำการต่ออะบัตเมนท์ซึ่งเป็นเสาเล็กๆ เชื่อมต่อจากรากเทียมขึ้นมาผ่านพ้นเหงือกเล็กน้อย พอผ่านระยะที่สองรากเทียมจะพร้อมที่จะเป็นเสาหลักสำหรับการทำครอบฟัน สะพานฟัน หรือรองรับฟันปลอมชนิดถอดได้ ตามแต่ที่ได้วางแผนไว้
อย่างไรก็ตามหากสภาพของกระดูกขากรรไกรเหมาะสมและแข็งแรงพอ เราอาจทำการรักษาแบบรวมเอาสองระยะมาไว้ในครั้งเดียวกันได้ หรืออาจทำครอบฟันชั่วคราวลงบนรากเทียม ภายในวันที่ฝังรากเทียมเลยก็ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของผู้ป่วยแต่ละราย
ข้อดีของการใส่รากฟันเทียม ที่เหนือกว่าฟันปลอมแบบอื่น มีดังนี้
- ไม่ต้องเสียเนื้อฟันข้างเคียง ในกรณีของการทำสะพานฟัน โดยปกติการทำสะพานฟันต้องทำการกรอตัดผิวฟันของฟันข้างเคียง และทำสะพานฟันยึดโยงจากหัวไปท้ายช่องว่าง จะเห็นได้ว่าการทำสะพานจะต้องกรอเนื้อฟันดีๆไปอีกสองซี่ แต่การใส่รากฟันเทียมไม่ต้องกรอฟันข้างเคียงแต่อย่างใด
- กระดูกที่รองรับรากเทียมจะไม่ฝ่อลีบ เนื่องจากมีการถ่ายทอดแรงบดเคี้ยวลงไปในบริเวณนั้นอย่างสมํ่าเสมอ ไม่เหมือนกับการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้หรือสะพานฟัน ที่เมื่อระยะเวลานึงผ่านไป กระดูกข้างใต้จะฝ่อลีบลง
- ดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรง ให้กำลังในการบดเคี้ยวได้ดีเหมือนฟันธรรมชาติ
- สะดวกในการดูแลทำความสะอาดเมื่อเทียบกับแบบสะพานฟันที่ต้องการอุปกรณพิเศษ ในการนำไหมขัดฟันเข้าข้างใต้
- สามารถให้ความรู้สึกของการรับรสชาอาหารได้มากกว่า เมื่อเทียบกับฟันปลอมแบบถอดได้ที่มีแผ่นเพดานใหญ่ๆ
- การออกเสียงผ่านไรฟันก็เป็นไปตามธรรมชาติ
- ในแง่ของการลงทุน รากฟันเทียมมีการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบบอื่นๆ มีการรับประกันในส่วนที่เป็นรากฟัน ตลอดชีพ(ภายใต้เงื่อนไขผู้ป่วยต้องมีการตรวจติดตามผลหลังใส่ฟันเป็นระยะๆทุก 6เดือน)
คำถามที่พบบ่อย
ถาม: ฟันหลอแบบไหนที่ใส่รากฟันเทียมได้
ตอบ: ใส่ได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ฟันหายไปซี่เดียว ฟันหายหลายๆซี่ จนถึงฟันหายไปทั้งปาก
ถาม: ต้องถอนและพักแผลไว้กี่วันถึงใส่รากเทียมได้
ตอบ: หากเบ้าฟันที่ถอนมีสภาพที่ดี ไม่มีการติดเชื้อ เราสามารถใส่รากเทียมได้ในวันเดียวกับที่เราถอนฟัน หรือพูดง่ายๆว่าใส่ทันทีที่ถอน หากบริเวณที่ถอนมีการติดเชื้ออยู่ก่อนอาจต้องพักแผลไว้จนการติดเชื็้อหายดี ทั่วไปก็ประมาณ 3 สัปดาห์
ถาม: หลังใส่ฟันปลอมรากเทียมแล้วต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่
ตอบ: การดูแลฟันปลอมที่ครอบติดลงบนรากเทียมสามารถแปรงฟันได้ตามปกติ สามารถใช้ไหมขัดฟันได้ ประหนึ่งเป็นฟันธรรมชาติของเราซี่หนึ่ง และกลับมาตรวจเช็คเป็นระยะตามที่ทันตแพทย์กำหนด เท่านี้ก็สามารถใช้รากเทียมได้ตลอดไป รากเทียมเป็นฟันปลอมที่ถาวรไม่มีการหมดอายุการใช้งาน ขอเพียงเราดูแลเรื่องความสะอาด อย่าให้มีหินปูนหรือคราบจุลินทรีย์เกาะจนทำให้เหงือกอักเสบ รากเทียมจะไม่มีปัญหาใดๆ เลย
ถาม: เคยตรวจจากคลินิกมาแล้วทันตแพทย์บอกสันเหงือกบางหรือกระดูกไม่พอยังสามารถทำรากฟันเทียมได้หรือไม่
ตอบ: สามารถทำได้ครับ ขอเพียงต้องปรับแต่งให้บริเวณที่จะใส่รากเทียม ให้มีความสูงหรือความหนาของกระดูกให้เพียงพอก่อน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและต้องมีการผ่าตัดเพื่อเตรียมสันเหงือก เช่นการปลูกถ่ายกระดูก การยกไซนัสเพื่อเพิ่มความสูงของสันกระดูก อย่างไรก็ตามการไม่พอของกระดูกหากขาดไม่มากนัก อาจทำการเติมกระดูก(ปลูกถ่ายกระดูก)ในขั้นตอนเดียวกับการฝังรากเทียมได้
ถาม: จะเจ็บ จะบวมมากแค่ไหน หรือต้องหยุดงานกี่วัน
ตอบ: ปัจจุบันการทำรากเทียมในขั้นตอนของการฝังราก ทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก หัวกรอถูกออกแบบมาดีขึ้นมากผู้ป่วยแทบไม่รู้สึกเลยขณะทำการรักษาอยู่ อาจมีอาการปวดหรือบวมบ้างในวันถัดมา แต่หากจะเทียบเคียง ก็คงพอๆกับการถอนฟัน1ซี่ ต่อการทำรากเทียม1ตัว โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องหยุดงาน